เคล็ดลับการขายงานฝีมือให้ประสบความสำเร็จ ภาค 3 (การประชาสัมพันธ์)
3. การประชาสัมพันธ์
ต่อจากตอนที่ 2 ที่ได้เล่าถึงมุมมองเกี่ยวกับสินค้าและการตั้งราคาสินค้างานฝีมือไปแล้วนั้น คราวนี้อยากนำเพื่อน ๆ ไปลองมองดูเทคนิคการโฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้า Hand Made ที่ได้ผลตรงตามที่ผู้ผลิตงานฝีมืออย่างเรา ๆ ท่าน ๆ สามารถทำได้จริงกันดูนะคะ
เพราะผู้ผลิตงานฝีมือ ( ระดับชาวบ้าน ) คงไม่สามารถทุ่มเทงบประมาณในการซื้อพื้นที่สื่อเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้มากมาย เหมือนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เขาทำ ๆ กันอยู่ จริงไหมคะ ?
สำหรับธุรกิจเรือจำลองไม้สักทอง ระบบมาตราส่วนของคุณพ่อนั้น เริ่มต้นจากการนั่งทำเรือจำลองให้มีคุณภาพและมาตรฐานสูงสุด เท่าที่จะทำได้ในอดีต การโปรโมทของคุณพ่อก็เป็นเพียงการให้บริการลูกค้าให้ดีที่สุด แล้วหวังว่า ลูกค้าจะเล่าต่อกันแบบปากต่อปากไปเองเท่านั้น ( ซึ่งนี่แหละค่ะ คือการโปรโมทที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช้ในช่วงที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ ! )
กว่าที่เรือจำลองไม้สักทองของคุณพ่อ จะโด่งดังจนกลายเป็นผู้ผลิตและ Gallery ส่งออก เรือจำลองและเรือสำเภาจำลอง อันดับหนึ่งของเมืองไทยนั้น ต้องผ่านกระบวนการประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงมาอย่างมากมาย ซึ่งก็อยากนำเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้มาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเพื่อน ๆ ได้ทดลองนำไปใช้กันดูนะคะ
1. การประชาสัมพันธ์แบบต้องใช้ทุนบ้างเล็กน้อย
หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกนะคะ กับการต้องใช้จ่ายเพื่อให้งานฝีมือของเราได้รับการจดจำ หรือความสนใจจากผู้ที่รับ และชอบในงานศิลปะแขนงต่าง ๆ อย่างแรกเลยที่คุณควรมีก็คือ เอกสารประชาสัมพันธ์ เช่น ใบปลิว , โบรชัวร์ ที่ลูกค้าหรือผู้ที่สนใจสามารถนำติดตัวกลับไปได้
แต่ก็อย่าพึ่งคาดหวังว่า ลูกค้าที่หยิบเอกสารของคุณไปนั้นจะตัดสินใจซื้อสินค้างานฝีมือของคุณในทันที เพียงเพราะได้เห็นเอกสารของคุณ แต่อยากให้คุณคาดหวังว่าผู้ที่หยิบเอกสารไปนั้นนำเอกสารของคุณกลับไปบ้าน ไปที่ทำงาน หรือเอาไปฝากเพื่อน ไม่ใช่แค่หยิบไปอ่าน ๆ แล้วก็ทิ้งลงถังขยะไป ( ซึ่งเกิดขึ้นแน่ ๆ อยู่แล้วล่ะค่ะ ! )
คุณไม่จำเป็นต้องลงทุนทำเอกสารราคาแพง ๆ หรือใบปลิวจำนวนมากมายมหาศาลตามที่โรงพิมพ์บอก แต่หากต้องการเริ่มต้นจริง ๆ แม้กระทั่งใบปลิวที่ถ่ายเอกสารมาก็สามารถใช้งานได้แล้วค่ะ แต่อย่างน้อยขอให้การออกแบบรูปร่าง หน้าตา และข้อความในใบปลิวของคุณ สะดุดตา สะดุดใจ ผู้คนที่ได้รับโบว์ชัวร์ใบนั้นไป ซึ่งมีความหมายมากกว่าความพยายามอัดแน่นข้อมูลต่าง ๆ สารพัด ของงานฝีมือที่คุณสร้างขึ้นมา จนรู้สึกว่าเราพยายามยัดเยียดข้อมูลให้กับผู้บริโภคจนเกินงาม
เชื่อเถอะค่ะว่า เขาไม่อ่านทุกตัวอักษรหรอก เป็นคุณ..คุณก็ไม่อ่าน หรือไม่จริง !
ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ อย่างที่บอกไปแล้วในกระทู้แนะนำตัวว่า ปัจจุบัน ดิฉันเป็นผู้ควบคุมดูแล และพัฒนาทีมงานการตลาด ให้กับโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง และปัญหาที่พบบ่อยมาก ๆ ของการสร้างโบรชัวร์หรือใบปลิว ก็คือการพยายามยัดเยียดข้อมูลทางวิชาการ จำนวนมหาศาลลงไปในใบปลิวแผ่นเล็ก ๆ แทนที่จะมองความน่าสนใจของผู้ที่ได้รับใบปลิวไป จนประชาชนที่หยิบใบปลิวของ รพ. เหล่านั้น หยิบไปอ่านแล้ว งง เป็นไก่ตาแตก ไม่เชื่อ คุณลองหยิบใบปลิว รพ. มาอ่านดูซิคะ ! รับรองได้ว่าคุณจะต้องรู้สึกเหมือนกำลังอ่านตำราทางการแพทย์อยู่เลยทีเดียว
กลับมาเรื่องงานฝีมือกันต่อ สิ่งที่คุณควรบรรจุลงไปในใบปลิว ขอแนะนำให้ใช้รูปภาพสวย ๆ ชัด ๆ ไม่เกิน 4 - 5 รูป กับข้อความที่นำเสนอข้อมูลสินค้าสัก 5 6 บรรทัดก็เพียงพอแล้ว เคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับ รูปภาพเพียงรูปเดียว บอกเล่าเรื่องราวได้มากกว่าหนังสือร้อยหน้า พันหน้า ด้วยซ้ำ
ในการถ่ายภาพเพื่อพิมพ์โบว์ชัวร์ คุณไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพสินค้าทุกด้าน เพราะอยากนำเสนอความสวยงามของงานฝีมือไปเสียทั้งหมด ถึงอย่างไรก็ตามผู้ที่สนใจหรือลูกค้าก็ย่อมอยากได้เห็นของจริง ก่อนตัดสินใจซื้ออยู่ดี
อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญ คือประโยคสั้นที่สามารถสื่อถึงเอกลักษณ์ของสินค้าคุณได้ ซึ่งในปัจจุบันคุณไม่จำเป็นต้องเคยทำงาน Copy Writer ตัวฉกาจ คุณก็สามารถหาประโยคสวย ๆ จาก Internet ที่คุณอ่านแล้วสัมผัสได้ว่า ประโยคนี้แหละสามารถสื่อถึงสินค้าของคุณได้ และนำมาใช้งานได้ตั้งเยอะแยะ
แต่โดยมารยาทที่ดีแล้ว คุณก็ไม่ควรคัดลอกของคนอื่นมาทั้งดุ้น แต่ควรใช้วิธีคัดลอกและดัดแปลง ให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวคุณเอง ซึ่งผู้ที่ได้อ่านจะไม่เกิดความรู้สึกว่า คิดเองไม่เป็นหรือไง ! เสียภาพลักษณ์ของสินค้าไปเปล่า ๆ ถ้าคุณออกแบบโบว์ชัวร์ด้วยคอมพิวเตอร์ไม่เป็น คุณลองหาข้อมูลใน Google ก็ได้ เดี๋ยวนี้นักออกแบบกราฟฟิกมีเยอะแยะ ราคาต่อหน้าไม่ถึงพันบาทก็มี ไม่จำเป็นต้องใช้นักออกแบบมืออาชีพ อาจเป็นน้อง ๆ นักศึกษาก็สามารถออกแบบโบว์ชัวร์ให้สวยงามได้แล้วล่ะค่ะ
2. จุดแจกโบว์ชัวร์
ถ้าคุณคิดว่าต้องเสียเงินทอง กับการจ้างเด็กเพื่อวิ่งไล่แจกโบว์ชัวร์ หรือเสียค่าเช่าที่แพง ๆ เพื่อเอาโบว์ชัวร์ไปตั้ง คุณกำลังคิดผิดแล้วค่ะ ลองมองสิ่งใกล้ตัวที่จะช่วยคุณแจกโบว์ชัวร์คุณได้ซิคะ เอาง่าย ๆ ที่สุดเลย ลูกค้าทุกคนที่สั่งซื้อสินค้าจากคุณ คุณก็แถมโบว์ชัวร์ให้เขาซัก 4 5 ใบ มีโอกาสสูงมากทีเดียวค่ะ ที่เขาจะนำโบว์ชัวร์ของคุณแจกจ่ายไปยัง ญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูงอีกจำนวนมากมาย
ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่านะคะ อย่าเสียเงินสั่งพิมพ์โบว์ชัวร์แพง ๆ แล้วไล่แจกให้กลายเป็นขยะอยู่ในถังขยะเลยค่ะ
3. เปิดตัวสู่สังคมบ้าง
หัวข้อนี้คุณอาจโต้แย้งในใจว่า จะไปเข้าสังคมที่ไหน ? จะไปเข้าสังคมด้วยวิธีการอย่างไร ? ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนมากมายนัก ฯลฯ ไม่ต้องไปหาที่ไหนหรอกค่ะ สังคม Internet นี่แหละ เพียงคุณเข้าไปในเว็ปไซต์ , เว็ปบอร์ด หรือ Blog ที่มีผู้คนที่สนใจงานประเภทเดียวกันกับคุณ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ สร้างความสัมพันธ์ หรือพูดคุยเรื่องสัพเพเหระ โดยไม่หวังผลทางการค้า ก็จะช่วยสร้างความจดจำให้กับผู้คนอีกมากมาย คุณก็จะเป็นที่รู้จักไปพร้อม ๆ กับงานฝีมือที่คุณบรรจงสร้างมันขึ้นมา
ตัวอย่างง่าย ๆ ที่เห็นได้ชัด .......... วันนี้คุณก็จำได้แล้วว่า อ.ชุติมา คนนี้เป็นเจ้าของ The Ships Gallery ศูนย์รวมเรือจำลองไม้สักทอง ระบบมาตราส่วน ที่ฝีมือเยี่ยมที่สุดในเมืองไทย... เห็นไหมคะ !
4. กัดฟันใช้เงินก้อนบ้างก็ดี
ดิฉันหมายถึง การออกงาน Event น่ะค่ะ คุณอาจเลือกมองหางานแสดงสินค้าที่ใกล้เคียงและเหมาะสม กับงานฝีมือของคุณมากที่สุด เพื่อเป็นการนำเสนอและโชว์ผลงานของคุณ ให้กับประชาชนจำนวนมาก ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่คุณต้องการนำเสนอ รวมถึงการมีโอกาสได้แจกใบปลิวบ้าง
การออกงาน Event ในสมัยนี้ อย่าไปคาดหวังเลยค่ะว่า จะสามารถขายสินค้าได้อย่างถล่มทลาย แค่ได้ค่าเช่าที่ ก็ถือว่าบุญแล้ว สิ่งที่คุณได้รับจากการออกงาน Event น่าจะเป็นโอกาสที่ได้นำเสนอตัวเอง แก่กลุ่มลูกค้าและสื่อมวลชนมากกว่าการเปิดร้านจำหน่ายสินค้า คุณอาจไม่จำเป็นต้องทุ่มเทเงินทองที่มากมายอยู่คนเดียวก็ได้ ถ้าคุณได้มีเพื่อนฝูงที่ผลิตสินค้างานฝีมือคล้าย ๆ กัน ( แต่ คนละชนิด ) ลองชวน ๆ กันไปแชร์ค่าพื้นที่ สัก 3 คนต่อ Booth ก็ได้ จะได้ไม่หนักคุณจนเกินไป
5. หัวข้อ Event ที่ผ่านมามีคำว่า สื่อมวลชน เข้ามาแทรกด้วย
คุณอาจไม่เคยคาดหวังว่า TV. , หนังสือพิมพ์ , นิตยสาร จะมาทำข่าวหรือสัมภาษณ์ผู้ผลิตงานฝีมือเล็ก ๆ แบบเรา ๆ แต่ถ้าคุณเริ่มเปิดตัวในสังคม คุณต้องไม่ลืมว่าสื่อมวลชนต่าง ๆ เหล่านั้น เขาก็ต้องพยายามหาข่าวที่น่าสนใจ เพื่อไปนำเสนอเช่นเดียวกัน จริงไหมคะ !
และถ้าสินค้าของคุณมีมุมมองที่น่าสนใจ รับรองได้เลยว่าสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ก็อยากจะนำเสนอผลงานของคุณเช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ผลงานเรือจำลองไม้สักทองระบบมาตราส่วนของคุณพ่อ อยู่ดี ๆ ก็มีหนังสือพิมพ์ข่าวสด , กรุงเทพธุรกิจ , นิตยสาร Aqua Biz , ททบ. 5 , เคเบิ้ลทีวี True Vision ติดต่อขอเข้าทำการสัมภาษณ์ , ทำข่าว หรือลงบทความ ก็เกิดจากการนำเสนอตัวเองจากสื่อต่าง ๆ ทั้งนั้นค่ะ
6. สื่อ Online
เป็นที่ยอมรับกันแล้วค่ะว่าปัจจุบัน โลก Internet ก็เป็นสื่อที่ทำให้ข้อมูลข่าวสารได้รับการเผยแพร่เป็นอย่างดี การมีเว็ปไซต์เป็นของตัวเองนั้นเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้คุณสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสาร และผลงานของคุณได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าในอดีตหลายเท่า คุณไม่จำเป็นจ้าง Programmer มานั่งเขียนเว็บไซต์ให้ดูเป็นมืออาชีพ คุณอาจเลือกใช้เว็บไซต์สำเร็จรูป ที่มีไว้คอยบริการอยู่มากมาย หรือไม่กระทั่งพื้นที่เว็บไซต์ฟรีที่เปิดพื้นที่ให้คุณเข้าทำเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ หรืออย่างน้อยก็ใช้ Blog สำเร็จรูปที่มีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Pantown ของ พันทิป นี่ก็ได้
เมื่อคุณมีเว็บไซต์แล้ว คุณอาจคาดหวังว่าอยากให้ search google แล้วอยู่ที่หน้า 1 ซึ่งเป็นความคาดหวังที่มีโอกาสเป็นไปได้ยากเหลือเกิน เพราะทุกคนก็คิดเหมือนกันหมด แล้วคุณก็มามีคำถามกับตัวเองว่า ทำไมเว็บของคุณไม่ติดอันดับเสียที แล้วก็หมดกำลังใจทำ
ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ! ถ้ามันติดหน้า 1 ได้ก็ดี แต่อย่าลืมว่าคนอื่น ๆ ที่เขาทำเว็บไซต์มาก่อนคุณเขาย่อมมีสิทธิ์ติดหน้า 1 มาก่อนคุณเป็นธรรมดา แรก ๆ ของการทำเว็บไซต์คุณอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย ที่จะเชิญชวนผู้คนให้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเนื้อหาในเว็บไซต์มากกว่า คุณควรมีการ Update ข้อมูลเป็นประจำ เพื่อให้คนที่เคยเข้ามาแล้ว กลับเข้ามาอีก ไม่ใช่เข้ามากี่ที ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สุดท้ายก็เลยไม่เข้ามาในเว็บไซต์ของคุณอีกเลย
เว็บไซต์ที่ดี อาจดีกว่าการไปเช่าหน้าร้านตามห้างสรรพสินค้าแพง ๆ ด้วยซ้ำ หัวใจสำคัญอยู่ตรงที่ว่า คุณทำงานสม่ำเสมอกับเว็บไซต์ต่างหาก เดี๋ยวผู้เยี่ยมชมก็เข้ามาเอง
ไม่เชื่อลองเสริชคำว่า เรือจำลอง ดูซิคะ ! รับรองว่าคุณเจอเว็ปไซต์ของดิฉันแน่ ๆ บางครั้งอาจไม่ติดหน้า 1 เสมอไป แต่เราก็ยังทำหน้าที่ Update ข้อมูลอยู่เรื่อย ๆ ไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็ปไซต์ของเราเป็นกว่าหมื่นคนแล้วล่ะค่ะ เห็นไหมคะว่า ทุกอย่างเป็นไปได้จริง ๆ ค่ะ เพียงแต่อาจต้องอาศัยเวลาซักนิดนะคะ
7. นำสื่อทุกอย่างที่คุณมี เชื่อมโยงเข้าหากันให้หมด
ตัวอย่างเช่น ในโบรชัวร์ก็มีเว็ปไซต์ , ในเว็ปไซต์ก็โปรโมท Event , ใน Event ก็มีหนังสือ , ในหนังสือก็มีโบรชัวร์ เชื่อมโยงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่คือการทำตลาดสองชั้น โดยไม่ปล่อยให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งขาดหายไป คนที่สนใจงานฝีมือของคุณก็จะมีโอกาสได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
อย่ามองข้าม สถาบันที่อ้างอิงชื่อเสียงได้ เช่น OTOP , สมาคมต่าง ๆ ส่งผลงานประกวดและการเก็บสถิติ ผู้ที่สนใจผลงานของคุณ รวมถึงลูกค้าที่ได้ซื้อผลงานของคุณไปแล้ว เพื่อใช้ในการสร้างความเชื่อมั่น ให้แก่ลูกค้ารายใหม่ ๆ
ตัวอย่าง เช่น ในยุคแรก ๆ ที่คุณพ่อทำเรือจำลองเราก็นำไปส่งคัดสรรจนได้รับการยอมรับเป็น OTOP 4 ดาวระดับประเทศในปีแรกที่ส่ง ซึ่งทาง OTOP เองก็ได้ช่วยนำเสนอผลงานของคุณพ่อทางเว็ปไซต์ ThaiTumbon จนมีสื่อชนิดอื่น ๆ ให้ความสนใจเข้ามาทำข่าวอย่างมากมาย ซึ่งเป็นที่มาของ นักต่อเรือจำลองระดับประเทศ ที่นักสะสมเรือจำลองระดับประเทศรู้จักกันดี ด้วยฉายา หัตถ์เทวะ ในปัจจุบัน
เห็นไหมคะว่า จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้คุณ จนคุณเองก็คาดไม่ถึงได้ และที่สำคัญ คุณไม่จำเป็นต้องทุ่มเทเงินทองหลายแสน หลายล้าน เพื่อการ PR. สินค้าของคุณก็ได้ เพียงแต่คุณควรเข้าใจเลือกใช้การ PR. ที่เหมาะสมกับงานฝีมือของคุณและงบประมาณในกระเป๋าก็สามารถประชาสัมพันธ์ได้ดีเช่นกัน ในมุมตรงกันข้ามคุณอาจเคยได้ยินถึงสินค้าบางประเภทที่โฆษณาเท่าไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ นั่นอาจเป็นเพราะโฆษณาในมุมมองที่แคบเกินไปก็เป็นได้ เชื่อเถอะค่ะว่าการโฆษณาที่ดีที่สุด ไม่ใช่ความพยายามที่จะหว่านแหเพื่อการขายสินค้าให้ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าการโฆษณาที่ได้ผลที่สุด คือการบอกต่อของผู้ใช้และลูกค้า
ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราดูรีวิวโรงแรม ร้านอาหารหรือแหล่งท่องเที่ยวในพันทิป ที่ผู้โพสกระทู้อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับกิจการนั้นเลยเรายังรู้สึกอยากไปทดลองใช้บริการ แต่พอเราไปดูเว็ปขายของหลาย ๆ เว็ป หรือแม้กระทั่ง Email ขยะ ที่ส่งโฆษณาชวนเชื่อเข้ามาจำนวนมาก เรากลับไม่อยากสนใจที่จะเปิดอ่านซะดื้อ ๆ แถมรู้สึกรำคาญอีกต่างหาก คาถาสำคัญสำหรับการ PR. ที่ควรท่องให้ขึ้นใจก็คือ เราต้องเป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้ขอ ลองนำไปใช้กันดูนะคะ !
หัวข้อ PR. นี่ค่อนข้างยาวซักหน่อยค่ะ เอาเป็นว่าวันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนล่ะกัน ชักเริ่มเมื่อยนิ้วแล้วล่ะ พิมพ์ไม่ไหวแล้ว คร่าวหน้าจะมาโพสในหัวข้อของ ภาพลักษณ์ ที่ดีของงานฝีมือนะคะ และหากสนใจก็ติดตามต่อกันได้นะคะ หรือมีคำถามที่ยังไม่เข้าใจ ก็ฝากคำถามไว้ก็ได้อีกค่ะ ยินดีและเต็มใจตอบทุกคำถามค่ะ