การทดลอง Kyrenia II ในปี 1986 (เรือบรรทุกสินค้าขนาดเล็ก 30 ตัน ขนาด 14.5 x 4.5 ม.) แสดงให้เห็นว่าเรือสินค้าโบราณสามารถต้านทานได้ดีในพายุขนาด 9-10 Bft (ลม 45-50 นอต) แน่นอนว่าดีกว่าเรือประจัญบานโบราณใดๆ ที่อาจจะไม่ต้านทานแรงเกินกำลัง 6 Bft (ลม 25 นอต) และคลื่น 1 เมตร ดังที่แสดงระหว่างการทดสอบทางทะเลของ Olympias (50 ตัน trireme ของ 37 x 5.5 ม.) ในปี 1992 (Morrison et อัล., 2000) ประสบการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นในปี 2017-2019 กับ Maagan Mikhael II (เรือบรรทุกสินค้าขนาดเล็ก 20 ตัน ขนาด 16.6 x 4.3 ม.) ซึ่งแสดงผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกับที่ได้รับจาก Kyrenia II (Palzur, 2021 [2 ] ) ทิศทางลม.ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า หากแรงลมไม่เกิน 15 นอต กะลาสีเรือจะมีอิสระในทิศทางการเดินเรือได้บ้าง โดยปกติแล้วเรือจะแล่นจากลมไปทางท้ายเรือ (180°) ไปยังลำแสงลม (90°) แต่ก็เป็นไปได้ที่จะแล่นไปตามลมได้สูงถึงประมาณ 60° เรือสำเภา (ดู Arnaud, 2005[1] และ Morrison et al., 2000[ 2]) อย่างไรก็ตาม เส้นทางระยะประชิดดังกล่าวไม่สะดวกนักและไม่มีประสิทธิภาพมากนัก เนื่องจากระยะทางที่คั่งค้าง (การเคลื่อนตัวด้านข้าง) อยู่ระหว่าง 10° ถึง 20° โดยมีลมพัดเบาๆ 5 ถึง 10 นอต ซึ่งเป็นเส้นทางที่สัมพันธ์กับ (จริง ) ดังนั้น ทิศทางลมจึงอยู่ที่ประมาณ 70° ถึง 80° (ระยะลมคืบหน้า 60° + 10° ถึง 20°) ซึ่งหมายความว่ามีทิศทางลมคืบหน้าเพียง 20° ถึง 10° จริงๆ ด้วยความเคารพต่อทิศทาง ไม่คืบหน้า ที่ 90° การแล่นเรือระยะประชิดนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ก้าวหน้าไปเล็กน้อยในทิศทางที่ต้องการ (จาก 0°) และทั้ง Casson (1995) และ Whitewright (2011) สรุปว่าความเร็วเฉลี่ยในทิศทางที่ต้องการนั้นน้อยกว่า 2 ถึง 2.5 นอต ดังนั้นจึงอาจคาดได้ว่ามีลูกเรือเพียงไม่กี่คนที่เลือกเดินเรือระยะประชิดในระยะทางไกล เว้นแต่พวกเขาจะถูกบังคับให้ทำเช่นนั้นโดยสภาพลมที่ไม่คาดคิดหรือเหตุผลที่น่าสนใจอื่น ๆ[8] .